[Fanfiction] Redux Chapter 00 (TH)

Redux

Mikoto x Kuroko
(To aru Series)



Author : ReaperLuca (PM)
Read Original : Fanfiction
Rated : T (เก้าปีขึ้นไป)
Genres : Adventure/Romance
Translator Thai : Jenerisk
QC : Jemisis




เรื่องย่อ
คืนวัน 28 กรกฎาคมย่างเข้ามาพร้อมกับเป็นจุดจบ, ชิราอิ คุโรโกะ ผู้ที่ตามหาข้อมูลและหาตัวของเด็กหนุ่ม, ลูกหลงจากกลุ่มก้อนแสงพลังจากโหมดปากกาโยฮัน


__________________________________________________________________________________________________________________________




สาระสำคัญ:

คืนวัน 28 กรกฎาคมย่างเข้ามาพร้อมกับเป็นจุดจบ, ชิราอิ คุโรโกะ ผู้ที่ตามหาข้อมูลและหาตัวของเด็กหนุ่ม, ลูกหลงจากกลุ่มก้อนแสงพลังจากโหมดปากกาโยฮัน


Author Note1: To aru Majutsu no Index คุโรโกะกับด้านเวทย์, โทวมะ/คุโรโกะ ความสัมพันธ์เพื่อนอันแน่นแฟ้นและมิโคโตะ/คุโรโกะ ในด้านโรแมนติก


ผมแต่งเรื่องนี้โดนอิงจากนิยายและอนิเมบางส่วน


ส่วนคำพูดบางช่องผมดึงมาจากในนิยายเป็นซะส่วนใหญ่ ผมแต่งเรื่องนี้ตั้งแต่แรกจนจบค่อนข้างจะละเอียดอยู่หน่อย


มีสปอยค่อนข้างเยอะหากไม่ได้อ่านอินเด็กซ์มาก่อนก็อาจจะงงหน่อยนะครับ หวังว่าคุณจะชอบเรื่องนี้!


สำหรับเรื่องที่ผมแต่งไว้ก่อนหน้านี้ผมกำลังจะอัพตอนต่อไปแล้ว สำหรับรีดเดอร์หน้าใหม่หวังจะชอบนะครับ




__________________________________________________________________________________________________________________________




Chapter 0:


Redux (สูญสลาย)

วันที่ 28 กรกฎาคม

11:58 P.M.


ทำไมโอเน่ซามะถึงได้หลงไหลในตัวเจ้าผู้ชายคนนั้นทั้งๆ ที่มีฉันอยู่ทั้งคนแล้ว!? ดิฉันไม่ใช่เพื่อนที่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง คู่หูพาร์ทเนอร์ที่อุทิศทุกอย่างงั้นหรือ? ไม่เข้าใจเลย เจ้าลิงเพศผู้ "คามิโจว โทวมะ" มีอะไรดี? เขามีอะไรพิเศษที่ฉันไม่มีงั้นเหรอ?


ความคิดของคุโรโกะสิ้นสุดลง เธอพาตนเองสู่จุดหมายปลายทางเขตที่ 7 ละแวกหอพักของชายหนุ่ม เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา มิโคโตะมักจะพูดถึง "ตาบ้า" คนที่ปรากฎตัวขึ้นต่อหน้ามิโคโตะ สามารถได้ทั้งบั่นทอนเวลารวมถึงพลังของเจ้าของฉายาเรลกัน มิโคโตะไม่เคยแม้กระทั่งหยุดพูดถึงเขาคนนั้นไม่ว่าขณะอาบน้ำหรือทำกิจกรรมในหอพักหรือแม้กระทั่งช่วงซัมเมอร์ ทุกๆ อย่าง ทุกๆ เวลา "อีตาบ้า"  "ตาบ้านั่น" ซ้ำไปมา เหนื่อยล้าเต็มทีกับการฟัง


คุโรโกะรู้สึกได้ถึงความขุ่นเคืองในใจเมื่อใดก็ตามเมื่อมิโคโตะอ้าปากพูดคำแรกถึงชายคนนั้นไป จนเวลาผ่านไป ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันที่ 20 กรกฎาคม ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจ เหตุการณ์ Level Upper จบลงไปแล้ว  แต่เธอยังสังเกตุเห็นท่าทีแปลกๆ ของโอเน่ซามะ พอเธอถามไถ่มิโคโตะ.. โอเน่ซามะของเธอจะรีบปัดๆ และยิ้มเฟื่อนๆ ให้เธอพร้อมกับโบกมือเชิงไม่มีอะไรทั้งอย่างนั้น


เป็นคืนเดียวกับคืนที่เธอนึกถึง "บางอย่าง" ที่ทำให้มิโคโตะกังวลบางอย่างเกี่ยวกับคามิโจว โทวมะ เธอได้ยินมิโคโตะพึมพำชื่อทั้งๆ ของของคนๆ นั้นทั้งๆ ที่กำลังหลับ หากสังเกตุดีๆ เธอคนนั้นกำลังร้องไห้ไปด้วย


คุโรโกะเลยคิดได้ว่าคงเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มคนนี้ บุคคลที่มีอิทธิพลต่อโอเน่ซามะของเธอ เธอลองค้นหาสถานที่ที่อยู่ ต้องขอบคุณอุยฮารุ ที่ทำให้เธอรู้ที่อยู่ห้องพักจนได้และเธอก็ตรวจสอบได้ว่าคนๆ นั้นชื่อ คามิโจว โทวมะ อายุสิบหก อยู่ปีหนึ่งระดับมัธยมปลาย มักมีเรื่องชกต่อยและเข้าไปพัวพันเกี่ยวกับเรื่องร้ายๆ มิหนำซ้ำอยู่ในระดับ Level 0


คุโรโกะรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันทีเมื่อได้รู้ถึงประวัติที่แสนเถื่อน ทำเอาคิดไม่ตกคนแบบนั้นหรือที่เป็นคนพิเศษของโอเน่ซามะ คนที่โอเน่ซามะของเธอมีความรู้สึกดีๆ.. ลิงยักษ์ดุร้ายตัวนั้นน่ะหรือ แค่คิดก็รู้สึกแย่


ไม่รู้ว่าทำไมเวลามิซากะ มิโคโตะได้ยินเรื่องของชายคนนั้น เธอจะต้องไปหาหมอนั่นด้วยตัวเอง


การมาครั้งนี้ของคุโรโกะ เผอิญเธอจะตรวจสอบวันอื่นไม่ได้เนื่องจากงานที่รัดตัวของจัดจ์เม้นต์ ถึงแม้เธอจะมีเวลาบ้าง แต่เธอเองก็ไม่อยากจะจินตนาการหากเธอต้องพูดว่าเธอจะไปห้องพักของคนๆ นั้น


อย่างไรก็ตามกับคนในเขตนี้แล้ว หากเห็นนักเรียนของโทคิวะไดละแวกนี้แล้วล่ะก็คงได้มีข่าวลือดังกระฉ่อนไปถึงโรงเรียนเป็นแน่


เธอถึงต้องเลือกมาตอนมืดๆ แบบนี้


คุโรโกะถอนหายใจขณะเทเลพอร์ตหย่อนตัวลงตามสถานที่ที่ใกล้เคียงพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือหาพิกัดของหอพักคามิโจวซัง เธอกวาดสายตารอบด้านและก็ต้องยิ้มอย่างเยาะเย้ยเมื่อพบว่าหอพักที่เธอกำลังหานั้นดูโกโรโกโสกว่าหอพักโทคิวะไดที่เธออยู่มากโข


ห้องพักพื้น ๆ กับผู้ชายหน้าบ้าน ๆ ฟังดูเหมาะสมดี


เธอเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากระโปรงเทาของเธอก่อนจะเดินไปตามทาง ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเช็คเวลา


12:05 A.M.


ถอนหายใจเบาๆ เธอเก็บมันกลับไป ยกแขนขึ้นกอดอก รู้สึกหน่ายใจไม่น้อย ถึงแม้เธอจะมายืนอยู่ ณ ตรงนี้ จุดๆ นี้แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจนักเธอควรทำอย่างไรต่อ ด้านหน้าปรากฎตึกอพาร์ตเม้นต์เก่าๆ กลางค่ำคืน เป็นบ้านที่ดูบ้าบอสิ้นดี


เธอยกมือจับคางสายตากรอกไปมาอย่างครุ่นคริด จะทำยังไงต่อดี? ก็รู้อยู่หรอกจะบุ่มบ่ามเข้าไปหรือจะซุ่มด้อมๆ มองๆ ต่อไปแบบนี้ก็คงจะไม่เหมาะ แต่ถ้าหากเดินไปเคาะประตูแบบดีๆ เจ้าลิงเพศผู้ตัวนั้นก็คงว่าดิฉันบ้าแน่ๆ ถึงจะไม่ใส่ใจจะคิดอะไรกับฉันก็เถอะนะ แต่ถ้าหากเจ้าลิงตัวนั้นบอกโอเน่ซามะขึ้นมาละ? อ๋าาา คนที่ดิฉันเทิดทูนความรักยิ่ง จะยังไงคุโรโกะก็รู้สึกไม่สบายใจ ตั้งแต่ตอน Level Upper ค่ะ


คุโรโกะยืดอกเดินหน้าหันกลับไปที่หอพักชายหนุ่ม คิ้วขมวดชิดติดกันเมื่อเธอคิดได้ว่าเธอรู้สึกคลับคล้ายคลับคลากับสถานที่แห่งนี้มาก่อน


เอ๊ะเดี๋ยวนะ... ถ้าจำไม่ผิดที่นี่เกิดไฟไหม้เมื่อหลายวันก่อนไม่ใช่เหรอ? เห..


เธอท้าวเอว มืออีกข้างสัมผัสที่ริมฝีปาก คิ้วยังผูกติดกัน จากที่เธอเคยได้ยินมาจากแอนตี้หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นได้หลายวันเธอก็ตรวจสอบได้ว่าคามิโจว โทวมะไม่ได้อยู่ในห้องของตัวเองตอนเกิดเหตุ


ถอนหายใจ เธอรู้สึกอยากยอมแพ้ หรือดิฉันควรจะกลับบ้านดี?


หากทำแบบนั้นก็ไม่เหมือนว่าเธอไม่อยากรู้เรื่องของลิงตนนั้นน่ะสิ ตอนนี้เธอยังพอมีเวลาอยู่


นอกจากนั้น เธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นตามสัญชาตญาณของเจ้าหน้าที่จัดจ์เม้นต์ทำให้เธอคิดว่าเธอควรจะตามเรื่องนี้ต่อไปให้ถึงที่สุด


หลังจากใคร่ครวญพักหนึ่ง เธอพยักหน้าหนึ่งทีก่อนรีบไล่นิ้วบนโทรศัพท์อย่างรวดเร็วเพื่อโทรหาอุยฮารุ


.


.


.



12:19 A.M.

"งั้นเหรอ ที่นี่เคยเกิดเรื่องแบบนั้นจริงๆ ด้วย...” คุโรโกะพึมพำกับตนเองเบาๆ พร้อมเทเลพอร์ตนเองลงพื้นอย่างนุ่มนวล  เธอจับท้ายทอยตนเองก่อนถอนหายใจหลังจากที่อุยฮารุลองแฮ้คเข้าบันทึกในมือถือของชายหนุ่มคนนั้นและลองตรวจสอบหลายๆ อย่าง สัญญาณโทรศัพท์ที่ใช้โทรออกครั้งสุดท้ายคือสามวันที่แล้ว เป็นเพียงเรื่องเดียวที่เธอรู้


ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองต้องมานั่งหาข้อมูลที่แสนสุดจะทนของลิงตัวนั้น คุโรโกะกำหมัดแน่น เธอส่ายหน้าแรงๆ ไม่สิ ไม่ ทุกๆ อย่างก็เพื่อโอเน่ซามะ ฉันต้องทำ


หลังจากที่คุยอยู่พักหนึ่ง เธอพยักหน้าเบาๆ ตกลงกับตนเองตัดสินใจเข้าไปใกล้ที่หอพัก เธอทำหน้าสะอิดสะเอียนหลังจากจมูกของเธอสูดบางอย่างเข้าไป


จริงๆ เล้ย... ลิงบ้าตัวนั้นอยู่ในที่ๆ ชวนเป็นลมขนาดนี้ได้ยังไงกัน แย่จริงๆ ยังไงก็ไม่เหมาะกับโอเน่ซามะของดิฉันเด็ดขาด


เธอยืนพิงกับหลังประตู หางตาจับภาพแสงบางอย่างได้ ไฟเปิดอยู่ในห้อง รอยยิ้มถูกชักขึ้นบนริมฝีปาก

ถึงเวลาตอบคำถามของฉันแล้วเจ้าลิง


ก่อนที่จะได้ทำอะไร มีแสงสาดส่องลงมากลางห้องอย่างจัง เสียงดังปะทะกับกำแพงพื้นผนังคอนกรีตกำลังแตกและทลายลงมา เธอหรี่ตามองอย่างตกใจด้วยเสียงที่ดังทะลวงแก้วหู เธอยกมือขึ้นสองข้างแนบหูก่อนพยายามเทเลพอร์ตกลับไปตั้งหลักเมื่อเธอเห็นชิ้นส่วนที่ถูกทำลายกระเด็นมาทางเธอ เธอยกแขนขึ้นและปิดเปลือกตาแน่นเพื่อป้องกัน


นะ นั่นมันอะไรกัน?


เมื่อควันคลุ้งสลาย เธอค่อยๆ ลืมเปลือกตาของเธอข้างหนึ่งก่อนเบิกตากว้าง มัน... มาจากหอพักนั่นเหรอ?



มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่?

.


.


.


12:24 A.M.


เธอเริ่มเรียกสติตัวเองกลับมาได้ หมอกควันที่หนาเมื่อซักครู่เริ่มหายไปหมดแล้ว



อย่างไรก็ตาม มีแสงประหลาดสีขาวลอยอยู่ ณ กลางห้อง



คิ้วเธอขมวดเข้าหากันอย่างสับสนก่อนเงยหน้ามองท้องฟ้า



อะไร?



งงงวยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยากที่จะทำการใดๆ เธอคว้าปลอกแขนจัดจ์เม้นต์คู่กายของเธอจากกระเป๋ากระโปรงและกำมันไว้แน่นและสูดหายใจเข้าลึกๆ


ถึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่างานของฉันคือการปกป้องเมืองนี้


ด้วยปณิธานอันแนวแน่ เธอเทเลพอร์ตเข้าไปใกล้ๆ มองจากด้านบนเพื่อจะตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างห่างๆ เธอมองลงมาในหลุมที่เกิดจากแสงประหลาด เธอรู้สึกสับไม่น้อยเมื่อเธอพบว่าคนที่เธอเชื่อว่าเป็นคามิโจว โทวมะ แสงไฟอ่อนๆ ที่กระทบเข้ามาทำให้เธอมองเห็นทัศนียภาพดีขึ้น ชายหนุ่มกำลังพยุงเด็กผู้หญิงร่างไร้สติคนหนึ่งอย่างระมัดระวัง ตอนนี้เธอเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าชัดขึ้น แน่นอนว่าต้องจับสองคนนั้นมาถามไถ่ให้จงได้


ดวงตาเธอเบิกกว้างอีกครั้งด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ชายหนุ่มก็ฟุบลงไปบนตัวของเด็กผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้สึกมีบางอย่างชนเข้าท้ายทอยของเธออย่างจัง


ความรู้สึกหนักอึ้งคล้ายถูกค้อนทุบ


สติพร่าเลือน ก่อนที่จะดำดิ่งลงในความมืดมิด ร่างของเธอร่วงหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงและกระแทกลงพื้นภายในหลุมใกล้กับเด็กหนุ่ม


ในวาระสุดท้ายนิ้วมือของพวกเขาได้สัมผัสแสงไฟที่หล่นลงมารายล้อมร่าง แสงไฟบางส่วนลอยต่ำลงมาสัมผัสกับบนร่างที่แน่นิ่ง



ในคืนวันที่ 28 มกราคม มีบุคลากรในเมืองแห่งการศึกษาสองคน "เสียชีวิตลง"


คามิโจว  โทวมะ


และ... ชิราอิ  คุโรโกะ

.


.


.


28 กรกฎาคม, 8:23 A.M.


เด็กสาวค่อยๆ ลืมเปลือกตาเธอขึ้นทีละน้อยด้วยเสียงรอบข้างที่มีมาเป็นระยะและปลุกเธอขึ้นมา เธอครวญครางเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งสัมผัสบริเวณศีรษะอันหนักอึ้งหลัง เธอลดมือลง มองรอบห้องอย่างสับสน


ที่นี่.. ที่ไหน? เธอมองรอบด้านอย่างอ่อนล้า ขยี้ตาเบาๆ โรงพยาบาล?


"อ๊ะ ดูเหมือนว่าจะตื่นแล้วสินะ"



ชายที่มีอายุอยู่ในชุดเสื้อกราวน์สีขาวเดินเข้ามาในห้องและยิ้มให้เธอ ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอคือ คนๆ นี้ หน้าเหมือนกบเด๊ะ


เด็กสาวยกมือป้องที่หน้าอกก่อนที่คิ้วจะหมวดเข้าหากัน "คุณเป็นใคร"



หมอหน้ากบยกมือเป็นเชิงบอกอย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้ แน่นอนเขาดูออกอยู่แล้วว่าเด็กสาวคงอยากถามอะไรต่อมิอะไรมากมายเป็นแน่แท้ "ก่อนอื่น ฉันขอถามเธอก่อน เธอจำได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?"


เธอนิ่วหน้า ยกมือจับศีรษะแน่น เธอพยายามนึกแต่ว่า "ฉัน..." สิ้นเสียงเธอเงยหน้าเล็กน้อยและตอบคำถาม "นอกจากที่ตื่นขึ้นมาเมื่อกี้แล้ว... นึกอะไรไม่ออกเลยค่ะ"


หมอหน้ากบถอนหายใจ พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ "งั้นช่วยบอกชื่อเธอหน่อยได้ไหม?"


ความรู้สึกราวกระแสไฟไหลเข้าไปในร่าง เธอพยายามเค้นหาคำตอบ พยายามนึกทุกอย่างที่อยู่ในสมองของเธอ


เด็กสาวเลิกลั่ก เหมือนมีบางอย่างมีรั้งเธอ จะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ก่อนที่จะได้แต่ส่ายหัวช้าๆ


"ไม่ค่ะ"


"อืม เข้าใจแล้ว" หมอหน้ากบถือแฟ้มบางอย่างก่อนที่จะยื่นมันให้เธอ "ฉันคิดว่าน่าจะช่วยให้เธอหายข้องใจในระดับหนึ่งล่ะนะ"


เด็กสาวเอื้อมมือรับเอกสารก่อนที่จะวางมันลงบนตักของเธอและเปิดมันอ่านตั้งแต่หน้าแรก ไม่มั่นใจนักว่าเธอกำลังอ่านอะไรและมันเกี่ยวข้องอย่างไรกับเธอ


ชิราอิ  คุโรโกะ

อายุ 13 ปี

นักเรียนปีหนึ่งแห่งโรงเรียนมัธยมต้นโทคิวะได

หนึ่งในสมาชิก Judgment ระดับท๊อป

Level 4 เทเลพอร์ตเตอร์


"หมายความว่ายังไงคะ?" เธอถามขณะที่จ้องหน้าคุณหมอ "เทเลพอร์ตเตอร์ คืออะไร?"


หมอหน้ากบไม่ตอบอะไร สายตากลับว่างเปล่าไม่แสดงอาการหรืออารมณ์ใดๆ เขาพยักหน้าก่อนเรียกนางพยาบาลเพื่อให้นำรถเข็ญสำหรับผู้ป่วยเข้ามา


เธอย่นหน้าขณะนางพยาบาลพยายามช่วยพยุงเธอลงจากเตียง เธอมองหมอหน้ากบอย่างไม่พอใจ


"ขอร้องล่ะ"


จนสุดท้ายแล้ว หมอหน้ากบยิ้มให้เธอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


"สิ่งที่เธออยากถามทั้งหมด ฉันจะตอบให้แน่นอน ชิราอิซัง"


เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงแม้เธอจะยังไม่รู้เรื่องอะไร ดวงตาของชิราอิ คุโรโกะก็ต้องเบิกกว้างบนใบหน้าที่ไม่อาจเข้าใจและไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เห็นได้

.


.


.


"ฉันเข้าใจ เธอทั้งสองคงจะสับสนกันมาก"


คุโรโกะทำได้แค่พยักหน้า เธอมองหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเธอในฟีลที่อยากจะปะติดปะต่อเรื่องราวในตอนนี้ หมอหน้ากบเข็ญรถเข็ญที่เธอนั่งเข้ามาในห้องเจอเด็กหนุ่มคนนี้ คนที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่ก็ไม่แน่ใจนักเรื่องของก่อนหน้านี้ กำลังนั่งอยู่บนเตียง เด็กหนุ่มรอบตัวมีผ้าพันแผลเต็มไปหมดและอย่างแรกที่เธอคิดเมื่อเธอเห็นหน้าเด็กหนุ่มคือ "จืดสนิท"


เป็นคนที่ไม่น่าสนใจอะไรเลยซักนิดเว้นแต่ทรงผมแหลมๆ ที่ดูไม่เป็นธรรมชาตินั่น ดูโดยรวมทั้งหมดแล้ว ก็ออกจะดูเป็นเด็กผู้ชายสุดแสนธรรมดา


"เอาล่ะ ฉันจะเล่าให้ฟังถึงแม้มันจะฟังดูเหนือหลักการวิทยาศาสตร์ ฉันหวังเธอทั้งสองจะตั้งใจฟังและพยายามเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด"


แม้คุโรโกะจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้ เธอพยายามที่จะตั้งใจฟังในเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอด หัวใจของเธอรู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่หมอกบเล่านั้นมันยากที่จะเชื่อนัก ดวงตาของเธอลุกวาวด้วยความไม่รู้ว่าควรจะแสดงสีหน้าแบบไหน


สิ่งทีเกิดขึ้นนั้นเกี่ยวพันกับเวทย์มนต์ ชายหนุ่มหนึ่งและเด็กสาวสองคนสลบไม่ได้สติ



อยู่ภายในหอพักและมีคนสองคนทีอ้างตนว่าเป็นจอมเวทย์พาพวกเธอมาส่งที่โรงพยาบาล



จอมเวทย์สองคนนั้นคุยกับแพทย์คนอื่นๆ และบอกเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้น



และแน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อพวกเขา ที่หมอกบบอกทั้งเธอสองคนนั่นเป็นเพราะ



เธอทั้งสองคนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น (1st)



เธอเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับเธอคิดอะไรบางอย่างได้ "เดี๋ยวก่อน... ดิฉันไม่ได้บอกว่าดิฉันเชื่อเรื่องพวกนี้แต่ถ้าหากมันเป็นความจริงงั้นทำไมไม่อธิบายว่าทำไมฉันถึงไปอยู่ที่นั่นได้"


จากที่คุณหมอบอกเธอ ชายหนุ่มที่นั่งใกล้เธอนั้นเป็นเหมือนดั่งฮีโร่ที่เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงอันตรายและสูญเสียความทรงจำไปจากการที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือเด็กคนหนึ่ง เขารู้เพียงอย่างเดียวว่าเขาไม่ควรรู้สึกสิ้นหวังใดๆ กับในสิ่งทีเกิดขึ้นกับเขา ฟังดูเหมือนเทพนิยายโรแมนติกก็ไม่ปาน


แต่แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้รู้เรื่องของเธอขึ้นเลยแม้แต่น้อย


หมอหน้ากบถมึงตึงกับคำถามของเธอ "'จอมเวทย์' พวกนั้นพาคุณมาที่นี่ คนพวกนั้นไม่รู้ว่าคุณพักอาศัยอยู่ที่ไหนรู้เพียงแต่ว่าคุณ "โดนพลังเวทย์" และสลบไปเหมือนคามิโจวซังเท่านั้น"


"แต่ แบบนั้นมัน.." เธอเม้มปากก่อนจะกวาดสายตามองไปที่เด็กหนุ่ม คนที่ไม่ยอมปริปากพูดอะไรเลยตั้งแต่เธอเข้ามาในที่ห้องนี้ แม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจว่าเขาอาจจะเป็นใครซักคนที่เป็นเพื่อนเธอใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ทราบแต่ว่าเขาเป็นนักเรียนมัธยมปลายและเธอเป็นเด็กคนหนึ่งที่ฐานะทางบ้านร่ำรวยและเรียนโรงเรียนของเหล่าคุณหนู


สิ่งที่เธอรู้ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย


"ฉันกำลังทำอะไรอยู่บนโลกใบนี้กัน?" กระซิบอย่างแผ่วเบา เธอกำมือข้างหนึ่งของตัวเองแน่น ดวงตาของเธอลดต่ำลง


เป็นเวลาซักพักหนึ่งกับความเงียบที่ปกคลุมห้องจนเด็กหนุ่มต้องกระแอมออกมาเล็กน้อย "เอ่อ" คุโรโกะ หมอหน้ากบละออกจากสิ่งที่ตัวเองสนใจและหันกลับมาตามเสียงของเด็กหนุ่มที่นั่งแน่นิ่งมาเป็นเวลานาน


เขายิ้มแหยๆ ก่อนจับที่หลังศีรษะตนเอง "นี่ก็ฟังกันมานานแล้ว ผมคิดว่าคุณน่าจะให้เวลาเราคิดเรื่องนี้กันซักหน่อย เอ่อคือ... จอมเวทย์กับเอสเปอร์งั้นเหรอ มันก็ฟังดูออกจะบ้าๆ ไปหน่อย"


สีหน้าของหมอหน้ากบเปลี่ยนไปในทันที "ก็ดีเหมือนกัน แล้วชิราอิซัง อยากให้ฉันพากลับห้องเลยไหม?"


"อา เดี๋ยวก่อนครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับ...ชิราอิซังซักหน่อย ได้มั้ย?"


คิ้วของคุโรโกะชนเข้าหากัน เธอจ้องตาของเด็กหนุ่มก่อนที่รู้สึกได้ว่าว่างเปล่า แต่กลับดูจริงจัง เธอพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ


"เอาสิ ฉันก็อยากคุย"


ด้วยการนั้น เขาทั้งสองผู้ประสบเหตุการณ์สูญเสียความทรงจำก็ได้อยู่กันลำพัง

.


.



.


คุโรโกะไม่รู้ว่าจะเริ่มบทสนทนายังไง จะให้พูดอะไรกับคนที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน และคนนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน


ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ "ความทรงจำถูกทำลาย" ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยซักนิด


"ขอโทษนะ"


คุโรโกะครุ่นคิดกับคำพูดแสดงการขอโทษที่เต็มเปี่ยม เธอก้มลงมองขาตนเองสลับไปมาเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของเธอคนที่จ้องหน้าเธอไม่วางตา


"ขอโทษอะไร" เธอถามอย่างไม่เข้าใจ


เด็กหนุ่มหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะโค้งตัวนั่งบนเตียงของเขาดีๆ "ฉันเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกนะทำไมเธอถึงไปอยู่ข้างนอกละแวกบ้านฉันแบบนั้น แต่ว่าเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ เป็นเพราะฉัน"


ลมหายใจคุโรโกะติดขัดกับคำพูดเหล่านั้น  เธอไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะพูดอะไรแบบนี้ เธอเองยังสงสัยเธอไปทำอะไรข้างนอกนั่นที่หอพักตรงนั้นกันหากมีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอเองก็ได้


เด็กอายุสิบสามอย่างเธอไปทำอะไรข้างนอกตอนเที่ยงคืน?


"ไม่หรอก... ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ คามิโจวซัง" เธอพูดช้าๆ จับที่ท้าวแขนรถเข็ญแน่น "ไม่ว่าจะยังไงฉันรู้สึกว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะฉันเอง"


เด็กหนุ่มเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางหน้าต่าง ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ก่อนที่จะมีแสงไฟมาแยงตาของเขาเรียกสติคืนมา คุโรโกะกังวลเล็กน้อย เขาส่ายหน้าช้าๆ


"ใครจะคิดกันล่ะว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?" เขาหันมาหาเธอพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน "จริงๆ แล้วฉันน่ะมีความซวยโชคร้ายติดตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงชิราซิซังจะพูดแบบนั้นก็ตาม ยังไงฉันก็ต้องขอโทษ ขอโทษจริงๆ กับสิ่งที่มันเกิด"


คุโรโกะนิ่งในสิ่งที่เด็กหนุ่มกล่าว เธอพูดอะไรต่อไม่ถูกเธอเพียงลดศีรษะและกำหมัดแน่น น้ำตาเอ่อล้น ไหลไปตามแก้มของเธอ


"ฉันเองก็ขอโทษเหมือนกัน"

.


.


.


มีเพียงไม่กี่เคสเท่านั้นที่สูญเสียความทรงจำไปจนหมด พวกเธอไม่ได้เพียง "ลืม" ความทรงจำไปเพียงเท่านั้น แต่เซลล์สมองของพวกเธอนั้นถูกทำลายลง หากเป็นความเสียหายธรรมดา มันคงเป็นบาดแผลที่สามารถรักษาได้ การรักษาเป็นไปไม่ได้กับเวทย์มนต์ อย่างไรก็ตามเจ้าหนุ่มที่ดูใสซื่อนั้นมีมือขวาที่เรียกว่า "อิมเมจิ้น เบรคเกอร์" สามารถลบล้างเวทย์มนต์ไม่อาจตอบได้ว่าเป็นพลังที่ดีหรือปีศาจกันแน่ สำหรับเด็กสาวคนนั้น... ไม่มีทางใช้เวทย์มนต์ได้เลยแม้แต่น้อย หากใช้จะมีผลข้างเคียงที่รุนแรงจนถึงแก่ชีวิต การ "ฟื้นฟูด้วยเวทย์มนต์" จะทำให้ร่างของเธอผู้ที่ใช้พลังของเอสเปอร์แตกสลายและอาจกลายเป็นเสี่ยงๆ ได้อย่างง่ายดาย มันจะเป็นบาดแผลที่คงอยู่ยาวนานไม่อาจรักษาให้หาย (2nd)



หากพูดให้ง่ายแก่การเข้าใจ ความทรงจำพวกเขาเหล่านั้นไม่มีทางได้กลับคืนมา



และไม่มีสิ่งใดสามารถเปลี่ยนความจริงเรื่องนี้ได้


.


.


.


8:50 A.M.


เมื่อหมอกบเดินออกไปจากห้อง เขารับโทรศัพท์โดยไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมานอกเหนือจากเพียงสีหน้าอันสุขุม เขายกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู


"หายากจังเลยนะที่จะโทรหาฉันแบบนี้"


อย่าบอกนะว่า ไม่สนใจสิ่งที่ฉันจะพูด


"อา นั่นสินะ แล้วมีอะไรถึงโทรมาหาฉันในเวลางานแบบนี้"


สิ้นเสียงปลายสายได้เพียงหัวเราะเบาๆ


ฉันแค่อยากจะมั่นใจว่านายจะเก็บมันเป็นความลับ เพื่อนยาก


หมอกบถอนหายใจก่อนเดินไปทางระเบียง "มีคำถามจะถามซักหน่อย  มีเรื่องอะไรถึงมาขอให้ฉันโกหกคนไข้พวกนั้น?"


แย่หน่อยนะ ที่บอกข้อมูลเรื่องนั้นไม่ได้


หมอหน้ากบส่ายหน้า "มีเรื่องเกิดขึ้นที่" เขาชะงักก่อนจะเริ่มพูดต่อด้วยเสียงเนือยๆ "งั้นมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉัน แต่อย่าหวังว่าจะให้ฉันโกหกอีก พวกนั้นเป็นคนไข้ของฉัน"


ไม่ต้องห่วง เพื่อนรัก


ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นอยู่ภายในขอบเขตความผิดพลาดที่คำนวณไว้แล้ว


"แล้วแต่นายจะพูด... อเลสเตอร์"


__________________________________________________________________________________________________________________________



Author Note : ในส่วนนี้ผมค่อนข้างใช้เวลาในการคิดค่อนข้างมากจริงๆ มิโคโตะยังไม่ได้ออกโรงในตอนนี้แต่ว่าเธอจะออกมาในตอนหน้าแน่นอนครับ! ขอบคุณที่มาอ่านเรื่องนี้ เจอกันใหม่ตอนหน้า

อ้างอิงจาก To aru Majutsu no Index เล่ม 1


Translator Talk :

ในส่วนของ 1st กับ 2nd เป็นช่วงคำอธิบายในเนื้อเรื่องค่ะกันงง ฟิคเรื่องนี้ค่อนข้างได้รับความสนใจและนิยมในระดับหนึ่งเลยค่ะทั้งคนชอบอินเด็กซ์และเรลกัน ก็เลยขออนุญาตเขามาแปล ขอกันข้ามเดือนแล้วเขาก็อนุญาตจนได้ เรื่องก่อนหน้าที่เขาแต่งก็ได้รับความนิยมดีเหมือนกันค่ะ เราเองก็ติดงอมแงม ใกล้จบแล้วด้วย แต่ทิ้งร้างยาวเพราะดูคนเขียนไม่ค่อยมีเวลาบวกกับเขาทุ่มเรื่องนี้มากๆ ขอฝากอีกหนึ่งผลงานแปลค่ะ



(แก้คำผิดครั้งที่ 1, 4 มกราคม 2014, 2:00A.M.)
(แก้คำผิดครั้งที่ 2, 3 กุมภาพันธ์ 2014, 19:10P.M)



ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.