[Fanfiction] Redux Chapter 01 (TH)
Redux
Mikoto x Kuroko
(To aru Series)
Rated : T (เก้าปีขึ้นไป)
Genres : Adventure/Romance
Translator Thai : Jenerisk
_____________________________________________________________________________________________
AN: ขอบคุณสำหรับคนที่กด Fav ฟิคผมนะครับ
แน่นอนด้วยว่าขอบคุณสำหรับทุกรีวิว ไม่รู้จะพูดยังไงดี
รู้สึกสนุกกับการเขียนเรื่องนี้จริงๆ และหวังว่าจะติดตามไปเรื่อยๆ นะครับ
สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบโทวมะก็ขอบคุณด้วยนะครับที่ให้โอกาสเขามีจุดยืนในเรื่องนี้
Chapter 1:
Memory Obliteration (ว่างเปล่า)
28 กรกฎาคม
หอพักโทคิวะได
7:07 A.M.
"อืมม.." มิโคโตะค่อยๆ
ลืมเปลือกตาตื่นจากนิทราเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าเข้ากระทบกับใบหน้า
เธอยกมือป้องเล็กน้อย
"ก-กี่โมงแล้วเนี่ย?"
เธอบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนจะพลิกตัวหงายขึ้นมาและเอื้อมมือคว้าเครื่องสื่อสารประจำกายตนก่อนเปิดมันขึ้นมาและก็ต้องคิ้วขมวดเมื่อเธอเห็นตัวเลขบอกเวลา
มิโคโตะได้แต่แอบคิดในใจทำไมยัยบ้าคุโรโกะถึงไม่ปลุกเวลาเดิมกัน
เดิมทีแล้วคุโรโกะจะตื่นก่อนคือช่วงเวลา 6:30
จะได้มีเวลาอาบน้ำคนแรกและค่อยแกะมิโคโตะออกจากเตียงตอน 6:45
เพราะฉะนั้นพวกเธอจะมีเวลาคุยเล่นกันก่อน 7:30 เธอค่อยๆ
ลุกขึ้นนั่งช้าๆ และยกมือขยี้ตาเบาๆ ก่อนกวาดสายตามองรอบห้อง
เธอหันไปมองเตียงที่อยู่อีกฟากหนึ่ง เธอย่นหน้าเล็กน้อยเมื่อเธอพบว่าเตียงของอีกฝ่ายถูกจัดเรียบร้อยและไม่มีวี่แววใดๆ
ของอีกฝ่าย เธอลุกขึ้นเดินไปดูที่ห้องอาบน้ำก่อนยกมือป้องปากจากการหาว
ไม่มีเสียงใดๆ
จากห้องอาบน้ำแม้แต่น้อยแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุโรโกะไม่ได้อยู่ข้างใน
มิโคโตะหยุดอยู่หน้าประตู สีหน้าเปลี่ยน ถ-ถ้าเกิดยัยนั่นเนียนแอบอยู่ล่ะ? มีอยู่หลายครั้งที่คุโรโกะพยายาม "สร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิด"
กระโจนเข้ามาหาเธอแบบสภาพเปลือยๆ ตอนที่กำลังจะเข้ามาอาบน้ำบ้างและก็ต้องโดนซัดลงไปทุกรอบด้วยกระแสไฟฟ้าพลังจิตประจำตัวของเธอ เธอกำมือแน่นและเขย่าแกว่งไปมาในอากาศด้วยความโกรธ เอาก็ได้...
เธอจับลูกบิดค้างไว้ซักพักและค่อยๆ ผลัก
"นะ-นี่!"
เธอชะงักและก็ต้องประหลาดใจเมื่อเธอพบว่าในห้องน้ำว่างเปล่า
ความโกรธที่เกิดเมื่อซักครู่ก็หายไป มิโคโตะยกมือท้าวเอวและหันหลังให้ห้องอาบน้ำ
"แปลก...
หรือว่าจะออกไปก่อนแล้ว?" เธอยกมือขึ้นระดับศีรษะและวางที่ท้ายทอยของเธอก่อนจะครุ่นคิดบางอย่าง
"...หรือว่าเมื่อคืนจะเล่นแรงไปกันนะ?"
เมื่อคืนเกิดเหตุนิดหน่อย รูมเมทหื่นของเธอนั้นพยายามเข้ามาเกาะแกะขอนอนด้วย
"แชร์ความอบอุ่นกันไงคะ"
คนตัวเล็กซื้อชุดนอนมาใหม่สุดหวือหวาหนำซ้ำไม่พอ ยังพยายามจู่โจมมิโคโตะหวังจูจุ๊บซักทีสองที
จนสุดท้ายก็ต้องจัดการซัดซักป้าบ สุดท้ายก็ลงอีหรอบเดิม
ถ้าจำไม่ผิดเมื่อคืนพูดใส่ไปว่า
เธอเป็นคนเดียวที่ชีวิตนี้ฉันจะไม่ยอมนอนด้วยเด็ดขาด... สีหน้ามิโคโตะบึ้งตึงทันที
เธอยกแขนลงเบาๆ หรือเราจะพูดแรงเกินไป?
คุโรโกะชอบทำอะไรเกินขอบเขตแต่ว่าเธอก็ไม่เคยทำร้ายมิโคโตะแม้แต่ครั้งเดียว
เป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเองและทำอะไรคิดหน้าคิดหลังเสมอ...
มิโคโตะถอนหายใจเธอจับหน้าผากตนเอง
"ยังไงซะตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้นี่นะ" เธอยิ้มออกมาน้อยๆ
"วันนี้เอาใจยัยนั่นซักนิดๆ หน่อยๆ พาไปเลี้ยงไอติม
เดินเที่ยวกันสองคนก็คงดีขึ้นเองแหละ"
คิดได้ดังนั้น
รอยยิ้มมิโคโตะปรากฎขึ้นบนใบหน้ากับแผนกิจกรรมวันนี้โดยไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นใดๆ
.
.
.
เวลาค่อยๆ ผ่านไป— เชื่องช้าและยาวนาน
ตอนนี้เข็มนาฬิกาแตะที่เลข 8 ในช่วงเช้า มิโคโตะอาการง่วงหนาวหาวนอนยังมีบ้าง
เธอเอนตัวพิงกับผนังสายตาทอดยาวออกไป
เธอมองไปที่ผู้คุมหอที่กำลังตรวจนักเรียนแบบตัวต่อตัวอย่างเคร่งครัด
เธอเดินไปโซนปีหนึ่ง
เธอก็ไม่เห็นคุโรโกะแม้แต่เงา ถึงจะถามเด็กคนอื่นๆ ว่าเห็นรูมเมทเธอบ้างมั้ย
จะเจอหรือไม่เจอพวกเธอเหล่านั้นก็คงตอบว่าไม่แน่ๆ
แฟนคลับบ้าๆ
รังแต่สร้างจะความหนักใจ เธอถอนหายใจและค่อยๆ ปิดเปลือกตา
เธอหมุนตัวเดินกลับไปตามทางที่เธอเดินมา เสียงตบมือของผู้คุมหอเป็นสัญญาณของการตรวจของวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว
เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก เธอค่อยๆ
ควานหาเครื่องมือสื่อสารของตนและไล่นิ้วกดหาเบอร์รุ่นน้องคนสนิทแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงดังขึ้นมาจากดานหลังเธอ
เธอยืนตัวแข็งทื่อ
สีหน้าแสดงความตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่เธอจะทำใจกล้าสู้เสือหายใจเข้าลึกๆ หันหาตามเสียง
"อ๋า คุณผู้คุมหอ
มีอะไรให้ช่วยงั้นเหรอคะ?"
ผู้คุมหอแห่งโทคิวะไดจับแว่นให้เข้าที่
สายตาจับจ้องลงมา "มิซากะ ครูใหญ่มีเรื่องจะพูดกับเธอ"
มิโคโตะก้มหน้ารู้สึกทำตัวไม่ถูกก่อนจะส่ายหัวกับตัวเองด้วยความสับสน
"คุยเรื่องอะไรคะ?"
ผู้คุมหอยกมือท้าวเอวด้วยความรู้สึกรำคาญ
"ไม่ได้ถาม ฉันรู้มาแค่นี้ อ๋อใช่มิซากะพอกลับมาส่งรายงานให้ฉันด้วยนะ"
น่ากลัวชมัด...
"อ๊ะเอ่อ ทราบแล้วค่ะ
ขอตัวก่อนนะคะ" มิโคโตะยิ้มเฝื่อนๆ หนึ่งทีก่อนจะรีบเผ่นออกมาจากตรงนั้น
เธอรู้สึกกังวลไม่น้อยกับการที่ครูใหญ่เรียกเธอเข้าไปคุยที่ออฟฟิศ
ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดราวกับมีอะไรมากดทับ เธอรีบวิ่งไปให้เร็วที่สุด
เหมือนมีลางบางอย่างบอกกับเธอ
การที่ครูใหญ่เรียกเธอมาพบในครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องของเธอ
เรื่องของเอซแห่งโทคิวะไดแต่อย่างใด
.
.
.
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
9:02 A.M.
ชิราอิ คุโรโกะค่อยๆ พาตัวเองลงมาอย่างช้าๆ
ผ่านไปไม่กี่นาทีหลังจากเธอรับรู้เรื่องความทรงจำ เธอไม่รู้เธอควรรู้สึกอย่างไร
เธอจำอะไรไม่ได้ซักอย่าง เธอคิดอะไรไม่ออกเธอไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้
เธอเป็นเพียงสิ่งที่ว่างเปล่า เป็นตัวภาระให้กับคนอื่นนอกจากนี้เป็นบาดแผลที่จะฝังลึกในใจเธอ
ทั้งๆที่มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ เธอลองคิดเกี่ยวกับเพื่อนที่เธออาจจะมี ความสัมพันธ์ความใกล้ชิดพ่อแม่กับเธอ
คิดเกี่ยวกับชั้นเรียน ชีวิตในรั้วโรงเรียนและงานจัดจ์เม้นต์ที่เธอทำอยู่มันเป็นยังไง
สุดท้าย, เธอคิดเกี่ยวกับคนที่เธอชอบ
บางทีเธออาจมีใครซักคนที่ชอบอยู่; อดสงสัยไม่ได้— คนๆ นั้นเป็นจะเป็นคนแบบไหน?
แข็งแกร่งกล้าหาญ? แล้วคนๆ นั้นชอบเธอกลับหรือเปล่า?
คำถามทั้งหมดวนเวียนอยู่ในหัว
สิ่งสำคัญที่สุด คิดเกี่ยวกับคนที่เธอเคยเป็น
ชิราอิ คุโรโกะแบบเมื่อวานเป็นคนลักษณะนิสัยยังไง?
เธอไม่รู้และรู้สึกท้อไปหมด ทุกๆ อย่างว่างเปล่า
ไร้เป้าหมาย ไม่มีสิ่งใดที่จะบอกถึงความเป็นตัวเธอก่อนหน้านี้ได้
เธอสูญเสียทุกอย่าง
"หวา—" คุโรโกะรู้สึกได้ว่าเธอชนกับอะไรเข้าบางอย่าง
คนที่เธอชนเป็นเด็กผู้หญิงผมสีเงิน ส่งสายตาปริบๆ เธอยิ้มให้ก่อนที่จะกล่าวคำพูดอย่างมีมารยาทและนุ่มนวล
"ขอโทษค่ะ"
เด็กที่ดูไม่เหมือนคนญี่ปุ่นโค้งตัวก่อนที่จะรีบปลีกตัวเดินไปตามทาง
คุโรโกะหันไปมองเด็กคนนั้นที่ค่อยๆ เดินห่างไปเรื่อยๆ
ก่อนที่เธอจะหันหลับมาและเดินต่ออีกครั้ง
เธอเดินกลับไปที่หน้าห้องคามิโจว โทวมะ
ในมือถือกระป๋องน้ำอัดลมสองสามกระป๋อง
ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้แม้กระทั่งเธอชอบดื่มอะไร เธอคิดว่าบางทีเธออาจควรแชร์ประสบการณ์
ความคิดเห็นกับคนที่สูญเสียความทรงจำไปแบบเธอ
บทสนทนาด้านในห้องที่เธอได้ยินไม่ได้มากมายหากแต่ทั้งสองต่างฝายต่างไม่รู้จะพูดอย่างไรและคงไม่รู้ว่าจะยกเรื่องอะไรมาพูด
เธอตัดสินใจทำลายบรรยากาศที่แสนจะอึดอัดนี้
"อา..."
เธอมองลงมากระป๋องน้ำที่เธอถืออยู่เป็นเวลาที่หมอกบเดินเข้ามาที่ห้องคามิโจวซังพอดี
เธอชะงักและมองตามก่อนที่เธอจะหันหลังยืนพิงผนังกำแพงหน้าห้องแทน เธอรู้ว่าการที่เธอจะหยุดแอบฟังอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
คิ้วเธอต้องกลับมาขมวดอีกครั้งเมื่อเธอได้เสียงด้านในห้องคุยกัน
เขาโกหกเหรอ? คำพูดถูกถ่ายทอดสู่เด็กผู้หญิงที่อยู่กับคามิโจวซังในตอนนั้น
คนที่เขา "ตาย" แทน
อินเด็กซ์
ชื่อแปลกดีนะ
คุโรโกะคิดและรีบดันตัวจากกำแพงเมื่อเธอเห็นหมอกบยืนอยู่ข้างเธอ
ดูเหมือนเขาจะแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงนี้ ถึงแม้สีหน้าจะไม่ได้แสดงอะไรออกมาก็ตาม
เขาเพียงส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะพึมพำบางอย่าง "จริงๆ เลย"
เขาเดินจากไปทิ้งให้เธอยืนอยู่ตรงนั้น เธอยิ้มบางๆ
ก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นด้านบนเพดาน
เมื่อซักครู่หมอกบเดินเข้าไปถามคามิโจวซังถึงเรื่องของเด็กผู้หญิงคนนั้น ทำไมเขาถึงได้เลือกที่จะโกหกเด็กคนนั้นแทนการที่จะบอกว่าเขาคนเก่าได้
"ตาย" ไปแล้ว, คามิโจวซังให้คำตอบว่าเขายังจำเธอคนนั้นได้
ในชั่วขณะนั้นคุโรโกะรู้สึกถึงบางอย่าง เขาจำคนสำคัญของเขาได้
บางทีเธออาจจะ...
เธอกลับมามีความหวังอีกครั้งแต่แล้วก็ต้องสลายไปเมื่อเธอได้ยินหมอกบพูดประโยคหนึ่งมัน
เป็นไปไม่ได้ ที่คามิโจวซังจะจำเรื่องราวหรือจำอะไรได้ได้ก่อนหน้านี้ ความทรงจำของคามิโจวซังจะไม่มีวันได้คืนมา
คามิโจวซังเพียงพูดแค่ว่า
"มันยังไม่ชัดเจนเหรอครับ? เพราะผมรู้สึกได้ถึงหัวใจของผม"
คุโรโกะหลับตาลงและส่ายหัวช้าๆ เป็นคนที่แปลกดีแท้...
เธอถอนหายใจเล็กๆ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปด้านในห้องของคามิโจวซัง อีกครั้งที่เขามองเพียงมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง
เธอใช้เวลาเล็กน้อยในการคิดเพื่อเรียกให้อีกฝ่ายหันมาให้ความสนใจ
"อ๊ะ..."
คามิโจวซังร้องเรียกเมื่อเห็นอีกฝ่าย คุโรโกะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ
"ซื้อมาจากเครื่องหยอดเหรียญ"
คามิโจวซังมองมาที่เธออย่างแปลกใจก่อนจะสะดุ้งขึ้นมาเมื่อเธอเอากระป๋องไปแนบที่หน้าอีกฝ่าย
เขาค่อยๆ รับมันมาก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
"โธ่ ระวังหน่อยสิ"
คุโรโกะหัวเราะเบาๆ
ก่อนจะหยิบกระป๋องตัวเองขึ้นมาจากบนโต๊ะและนั่งลงเก้าอี้รถเข็ญผู้ป่วยของเธอ
"โทษที แค่อยากจะลองทำอะไรเล่นๆ ให้หันมาสนกันหน่อยเท่านั้นล่ะ" เธอหมุนล้อรถเข็ญของเธอขยับไปข้างเตียง
แก้มของเธอแนบอยู่บนฝ่ามือ
ศอกวางบนที่วางแขนเพื่อให้บาลานซ์
เธอจ้องเด็กผู้ชายตรงหน้ากำลังพยายามแกะกระป๋องน้ำโซดามะพร้าว
ผ่านไปไม่นานมีเพียงความเงียบเข้าปกคลุม เธออ้าปาก เลือกถามคำถามอีกฝ่าย
คำถามแรกตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องนี้
"คุณ"
เธอลดระดับกระป๋องน้ำบนมือลงมา "ทำไมถึงโกหกเด็กคนนั้น?"
เธอได้ยินคำตอบที่เขาคุยกับหมอกบ
แต่เธอจะถามมันด้วยตัวเอง เขาค่อยๆ วางกระป๋องน้ำลงบนตัก
เธออยากรู้อะไรคือสิ่งที่หัวใจของเขารู้สึกได้
เขายิ้มออกมา รอยยิ้มที่ดูเศร้าหมอง
คุโรโกะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดข้างในและดูน่าสงสารในเวลาเดียวกัน...
"เด็กคนนั้นเองคงเข้าใจถ้าจะพูดความจริง"
เธอพูดในสิ่งที่เธอคิดออกไปขณะมองตาอีกฝ่าย "สุดท้ายแล้ว
คำโกหกที่ตั้งใจปกป้องเด็กคนนั้นจะกลับกลายมาทำร้ายเด็กคนนั้นเอง"
เธอตัดสินใจแล้ว หากเธอคนนั้น ชิราอิ คุโรโกะ
มีใครซักคน ใครบางคนที่แคร์เธอมากพอ ร้องไห้ให้เธอกับการสูญเสียเธอไป
เธอจะไม่โกหกคนๆ นั้นหากพวกเขาเหล่านั้นรักเธอจริงๆ และแคร์ตัวเธอแล้ว
พวกเขานั้นควรจะได้รับรู้ความจริงของเธอ
ไม่เป็นไร หากแม้มันต้องแลกด้วยความเจ็บปวดในตอนนี้มากก็ตามที
แต่เพียงพรุ่งนี้บาดแผลก็จะเริ่มจางหายไปเอง
คามิโจวซังเงียบพักใหญ่ก่อนที่เธอจะสงสัยว่าเธอล้ำเส้นมากเกินไปหรือเปล่า
เธอควรจะขอโทษเขาแต่แล้วเธอก็รู้สึกไออุ่นจากมือของอีกฝ่ายบนมือเธอ
เขายิ้มให้เธอ "ฉันเองก็หวัง
อยากจะกล้าพอที่จะทำแบบนั้น ชิราอิซัง
สุดท้ายแล้วฉันเองก็เป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง"
ก่อนที่เธอจะหาคำมาโต้แย้งอีกฝ่าย
เสียงหมอกบเดินเข้ามาในห้องขัดจังหวัดบทสนทนาของพวกเธอพอดี
"ชิราอิซัง
มีคนมาเยี่ยมน่ะ"
คามิโจวซังยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนก่อนจะคลายมือออกและหันกลับไปที่หน้าต่างบานเล็กข้างเตียง
เธอค่อยๆ จับล้อรถเก้าอี้เข็ญของเธอก่อนจะค่อยๆ หมุนเข้าไปใกล้หมอกบ
เธอหันมองคามิโจวซังเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากห้อง
.
.
.
คุโรโกะรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเมื่อเธอพบว่าในห้องของเธอว่างเปล่า
เธอกัดริมฝีปากเบาๆก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นไปบนเตียงและปล่อยตัวตามสบาย หูเธอร้อนอาจเพราะความตื่นเต้น
เธอยกแขนขึ้นกอดอกอย่างรู้สึกกระวนวาย
คนๆ นั้น จะเป็นใครก็ตาม คงเป็นคนที่เธอคนเก่ารู้จัก
เธออดสงสัยไม่ได้คนนั้นเป็นคนยังไงและการสูญเสียของเธอครั้งนี้จะเป็นการทำร้ายพวกเขามากหรือเปล่า
สายตาจ้องขึ้นบนเพดานห้องและก็ต้องเปลี่ยนทิศทางไปเมื่อเธอได้ยินเสียงประตูห้องของเธอเปิดพร้อมกับเสียงหอบหายใจของคนมาใหม่
ปรากฎหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังพยายามชะลอการใจของตนเอง ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อดวงตาสีน้ำตาลของอีกฝ่ายจ้องมาที่เธอ
เพียงชั่วขณะ หัวใจของเธอรู้สึกสั่นไหวด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
เด็กสาวยืนหอบหายใจครู่หนึ่ง
เธอรีบยืดตัวขึ้นและรีบรุดเข้าไปหาคนไข้ เธอหยุดอยู่ข้างๆ เตียง, คุโรโกะลุกขึ้นนั่งสายตาจับจ้องอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมาทางนี้เช่นกัน
คุโรโกะพิจารณาเด็กสาวตรงหน้า; เธอคนนี้เจ้าของผมสีน้ำตาลยาวประบ่าดูแล้วน่าจะเป็นมอต้น
กระโปรงสีเทา เสื้อสีขาวแขนสั้นตามคอนเซ็ปชุดหน้าร้อน
เธอเป็นคนสวยละม้ายคล้ายคลึงลูกคุณหนูก็ไม่ปาน
คุโรโกะสงสัยไม่น้อยกับโลกรอบด้านที่ตนอยู่นี้เป็นแบบไหนกันแน่
"เรื่องจริงเหรอ?"
คุโรโกะหยุดคิดก่อนที่จะรู้สึกตัวได้ว่าเธอคนนี้กำลังพูดกับเธอ
เธอคนตรงหน้าเพียงจ้องที่ริมฝีปากของเธอ เธอไม่ได้ให้คำตอบอะไร มีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆ
ลอดออกมาเท่านั้น คุโรโกะลดระดับสายตาตนเองก้มลงมองขา พยายามสงบใจตัวเองแต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่พูดอะไรจนผู้มาใหม่พูดต่อ
"เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย?"
เธอมองมาที่คุโรโกะ สายตาพร่ามัวไปหมด "บอกสิว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง วิ่งเข้ามาหาฉัน— กระโดดเข้ากอดฉันเหมือนอย่างทุกที
หัวเราะแล้วบอกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องล้อเล่น... เป็นเรื่องล้อเล่นใช่มั้ย คุโรโกะ?"
คุโรโกะเพียงทำได้แต่อยู่นิ่งๆ
เธอคนตรงหน้าเรียกเธอด้วยชื่อเล่น ชื่อเล่นของเธอ
ภายในหน้าอกแน่นไปหมดราวกับถูกบีบรัด
เธอตัดสินใจจ้องตาอีกฝ่ายกลับ
"ขะ-ขอโทษค่ะ ฉันไม่—"
ใบหน้าของคนที่ดูแก่กว่าเปลี่ยนไปทันที
นัยน์ตาเศร้าหมองเสียใจแสดงออกมาอย่างชัดเจน ลมหายใจติดขัด เธอหยุดพูด, ทุกๆ อย่างทุกท่าทางดูสิ้นหวัง
เธอมองอย่างไม่เข้าใจบางทีตัวเธอควรจะพูดอะไรที่ดีกว่านี้
ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อเด็กสาวตรงหน้ารีบหันไปทางอื่น คุโรโกะมองอย่างสงสัย
ถึงจะเป็นเพียงแค่พริบตาเดียวแต่เธอเห็นน้ำตาของเธอคนนี้ที่กำลังเอ่อล้นจากหางตาแม้เธอคนนี้จะพยายามยิ้มอยู่ด้วยก็ตาม
"หิวน้ำมั้ย? ฉันจะไปซื้อซักหน่อย เดี๋ยวรีบกลับมานะ"
เด็กสาวรีบเดินหันออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วโดยฟังคำใดๆ จากคนที่นั่งอยู่บนเตียง
เธอได้แต่มองแผ่นหลังคนตรงหน้าเดินจากไปด้วยความสับสนก่อนที่เธอจะได้สังเกตุตัวเอง
เพราะอะไรซักอย่าง เธอยื่นแขนออกไปอย่างไม่รู้ตัว
ราวกับเธอกำลังพยายามเอื้อมมือคว้าอะไรบางอย่างที่เธอได้สูญเสียไป
.
.
.
มิโคโตะยืนอยู่หน้าเครื่องขายน้ำอัตโนมัติ
เธอรู้สึกตกใจและเจ็บปวดข้างในเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง
น้ำตามากมายไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง วันนี้ตอนเช้าเธอเข้าไปหาครูใหญ่
เขานั่งอยู่ตรงหน้าของเธอ
ในที่ตรงนั้นมีเพียงหน้าจอมอนิเตอร์เครื่องหนึ่งกับหมอกบคนที่เคยช่วยพวกเธอตอนเหตุการณ์
Level Upper
หมอกบเป็นคนแรกที่เริ่มพูดและอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เธอปักใจเชื่อกับเรื่องนั้นไม่ได้ จะเป็นไปได้ยังไง? "เสียความทรงจำอย่างสมบูรณ์"
เป็นเรื่องที่ฟังดูเวอร์สิ้นดี แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
เรื่องที่ไม่น่าเชื่อแบบนี้.. ความทรงจำพวกนั้นหายไปแล้ว
โดยที่เราหรือไม่ว่าใครไม่อาจทำอะไรได้ จะพยายามกู้คืนหรือพยายามรื้อฟื้นไปเท่าไหร่ก็เปล่าประโยชน์
ความกลัวก่อตัวขึ้นมาในใจมิโคโตะ มันบีบหัวใจของเธอจนแทบแหลกสลาย เธอเลือกที่จะไม่ฟังต่อ กลับรีบรุดออกมาจากในห้องนั้นและตรงมาที่โรงพยาบาล โดยไม่สนใจโทรศัพท์มือถือที่ดังมาเป็นระลอกๆ จากครูใหญ่และหมอ
เธอวิ่งมาถึงเค้าท์เตอร์โรงพยาบาลถามหาห้องของคุโรโกะอย่างเหนื่อยหอบและวิ่งต่อไปยังที่หมาย, หัวใจของเธอกำลังสั่น
ความเป็นจริงถาโถมเข้าทำร้ายเธอมากกว่าที่คาดไว้ ดวงตาสีน้ำตาล แต่ก่อนที่เคยมีแต่ความอบอุ่นตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นเพียงดวงตาที่มีแต่ความว่างเปล่า
อยากจะเดินเข้าไปขอโทษเธอคนนั้นมากกว่าอะไรทั้งหมด
ตึง...
หัวของมิโคโตะกระทบเข้ากับเครื่องขายน้ำ เธอหลับตาลง ฉันควรจะทำยังไง?
มีเอสเปอร์หลายคนในเมืองนี้ หากพูดถึงพลังเทเลพาธีที่แข็งแกร่งที่สุด
เธอคนนั้นเป็นเด็กนักเรียนโทคิวะได Level 5 อันดับ 5 เธอยังไม่แน่ใจนักว่าจะสามารถช่วยอะไรได้หรือไม่ หมอกบเพียงกำชับกับเธอว่าจะเป็นเธอหรือใครคนอื่นก็ตามก็มิอาจสามารถทำอะไรได้ถึงจะพยายามแค่ไหน พยายามเท่าไหร่ แต่บางทีเธอก็ควรจะลองซักตั้ง ลองก้มหัวขอร้องเธอคนนั้น ขอร้องอันดับ 5
ให้ช่วยเธอ ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอทั้งคู่จะไม่ดีนัก แต่เธอก็ยินดีแม้จะต้องโยนความภาคภูมิใจทั้งหมดที่เธอมีทิ้งไป เพื่อช่วยเพื่อนของเธอ
เธอกำหมัดแน่นทุบเข้าที่กระจกเครื่อง ฉันควรจะทำยังไง?
.
.
.
เธอกลับมาที่ห้อง คุโรโกะหันไปตามเสียง
เธอก็ต้องรู้สึกผิดและอยากขอโทษอีกครั้งเมื่อเธอเห็นรอบตาของอีกคนแดงก่ำ แต่เธอรู้สึกได้ถึงบางอย่างจากอีกฝ่าย เธอค่อยๆ เก็บกลืนคำที่อยากจะพูด เสมือนพวกเธอทั้งคู่รู้ว่าต่างคนต่างอยากพูดอะไร
เด็กสาวเจ้าของผมสีน้ำตาลชักยิ้มก่อนจะหยิบยื่นกาแฟกระป๋องให้
"ซื้อมาให้"
เธอพูดพร้อมเดินเข้าไปใกล้คุโรโกะและยื่นให้ถึงกับมือของอีกฝ่าย
สายตาคุโรโกะบ่งบอกถึงความร้อนของกระป๋องน้ำที่ได้รับมา
ก่อนที่อีกคนจะมองไปทางอื่นและนั่งลงใกล้ๆ เตียง คุโรโกะพึมพำขอบคุณก่อนจะพยายามแกะกระป๋องน้ำดื่มในมือ
ความเงียบเข้าครอบคลุมชั่วขณะก่อนจะมีรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของทั้งสองสาว
"โทษที... แบบว่าไม่รู้จะพูดอะไรดีน่ะ"
คุโรโกะมองอีกฝ่ายอย่างเข้าใจ
เธอเปิดกระป๋องน้ำยกขึ้นดื่มเล็กน้อย เธอหลับตาลงพร้อมกับลิ้มรสชาติของน้ำดื่ม
เธอยิ้มกว้าง
"อร่อยมั้ย?"
ราวกับความร้อนข้างในประทุ แก้มของคุโรโกะค่อยๆ ขึ้นสีอาจเพราะด้วยความเขิน
เธอรู้แล้วว่าตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียว เธอคนที่นั่งข้างเราตอนนี้เองอาจจะเศร้าไม่น้อย
สาวที่ดูแก่กว่ายิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเกาแก้มเบาๆ
"ดีจังเลยที่ชอบ... ของโปรดเธอเลยนะ" พูดจบเธอก้มหน้าลดระดับสายตาลงมองที่แขนตนเอง
ความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้ง
คุโรโกะรู้สึกแปลกๆไปเพราะมีบางอย่างข้างในที่เธอไม่รู้จะอธิบายเช่นไร
ในใจของเธออยากจะเข้าไปปลอบเธอคนนี้ เธอเป็นต้นเหตุทำให้คนๆ นี้รู้สึกเศร้าเสียใจ, เด็กสาวผมน้ำตาลลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
"ฉะ-ฉันไปก่อนดีกว่า"
"อ๊ะ..."
คุโรโกะมองตามอย่างสับสน เธอมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนและก็เข้าใจเมื่อเธอสังเกตุเห็นอีกฝ่ายกำลังสั่น เธอไม่อาจรู้ได้เธอควรจะทำอย่างไร ในตอนนี้เธอเพียงทำตามในสิ่งที่หัวใจของเธอเรียกร้องเท่านั้น
คนที่แก่กว่าหันกลับมองลงมาที่คนไข้อย่างแปลกใจเมื่อเธอพบว่าอีกฝ่ายกำลังจับข้อมือรั้งเธอเอาไว้
"อย่าไปเลยนะคะ
ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นแน่นอน"
เธอเองก็ไม่อาจล่วงรู้ทำไมเธอถึงพูดไปเช่นนั้น
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ไม่มีอะไรดีขึ้นแม้แต่น้อย
เธอจำไม่ได้แม้กระทั่งว่าเด็กสาวเจ้าของผมสีน้ำตาลคนนี้เป็นใคร แต่คนตรงหน้าเธอคนนี้เป็นคนที่แคร์เธอมากพอที่จะร้องไห้ให้เธอ
ทั้งๆ ที่เธอเป็นเพียงสิ่งที่ว่างเปล่า จากก้นบึ้งหัวใจของเธอสัมผัสได้ถึงทุกอย่างนั้นเป็นของจริง
เธอก็ไม่เข้าใจทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนั้นแต่เธอรู้ว่าทุกอย่างต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
คุโรโกะนึกถึงคำพูดของคามิโจวซัง
ทำไมเขาถึงได้คิดแบบนั้นและเพราะอะไรเขาถึงได้พูดแบบนั้นออกไป เขาจำอินเด็กซ์ได้ถึงแม้มันจะฟังแล้วเป็นเรื่องเหนือวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถอธิบายได้, คุโรโกะยิ้ม
เธอพอจะเข้าใจแล้วล่ะ ถึงจะดูเหลือเชื่อแต่ความรู้สึกนี้เหมือนกับ:
รู้สึกได้จากหัวใจของฉัน
.
.
.
_____________________________________________________________________________________________ ____________________________
AN: หวังว่าจะชอบนะครับ!
อย่าลืมรีวิวหรือไม่ก็หลังไมค์มาหาผมก็ได้ถ้าอยากคุยกับผม ไว้เจอกันใหม่
Translator Talk :
สวัสดีค่ะ ขนออกมาอีกหนึ่งตอน... ตอนนี้สนุกสนานค่ะมีแต่ดราม่า
(แก้คำผิดครั้งที่ 1, 3 กุมภาพันธ์ 2014, 19:40P.M)
(แก้คำผิดครั้งที่ 1, 3 กุมภาพันธ์ 2014, 19:40P.M)
Leave a Comment